ชนชาติญานดิบ “บิดาขา”
ไหล่ที่เคยผึ่งผายเกินวันของบิดามองห่อโก่ง เส้นผมสีเทาที่เจ้าตัวบรรจงหวีจัดทรงอยู่เป็นนิจชุลมุนเป็นยุ่งเหยิง นิดาจำวันที่ไม่ดีที่ สุดในชีวิตของคุณแล้วก็บิดาได้อย่างเที่ยงตรง วันที่แพทย์ผู้ครอบครองไข้แจ้งกับบิดาแล้วก็ นิดาว่าแม่ไม่มีแรงที่จะต่อสู้กับโรคร้ายแล้วก็ได้จากไป แล้วอย่างเงียบๆ บิดากับนิดากอดกันร้องไห้อย่างไม่อายคนใดกันแน่
จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ตรงเวลากว่าปี ที่บิดาเอาแต่ใจไม่ยินยอมฌาปนกิจศพแม่ แม้กระนั้นด้วยแรง ร่ำร้องของคุณยาย แล้วก็เครือญาติข้างแม่บิดาก็เลยยอมสุดท้าย แขกแล้วก็เครือญาติที่มาฌาปนกิจศพต่างทะยอยกันกลับจนกระทั่งหมดเกลี้ยงแล้ว คงเหลืออยู่แม้กระนั้นนิดากับบิดา ซึ่งนั่งเคียงกันโดยไม่มีท่าทีว่าจะขยับเขยีอนไปไหน แม้ว่าจะตรงเวลายามค่ำคืน นิดาแล้วก็บิดาก็ยังเห็นควันสีเทาหม่นหมองที่พวยพุ่งจากปล่อง เชิงตะกอนเผาร่างซึ่งกาลครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รักยิ่งของนิดาแล้วก็บิดา หมดเกลี้ยงแล้ว น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดเริ่มไหลรินอาบแก้มนวลของนิดาอีกรอบ ตั้งแต่แมื่อ วันที่แม่จากไปอย่างไม่มีทางกลับ บ้านซึ่งเคยอบอุ่นด้วยความรักกลับเงียบเชียบไม่มีชีวิต บิดาซึ่งเคยกลับไปอยู่ที่บ้านตามกำหนดแต่ละวันก็กลับผันแปรไป หลายครั้งที่นิดาจำเป็นต้องรออย่างทรหดอดทนเพื่อเปิดประตูให้กับบิดาซึ่งโซเซกลับมาพร้อมด้วยกลิ่นสุราเหม็นกระจาย หลายครั้งที่บิดาล้มตัวลง นอนเหยียดกายบนโซฟาในห้องรับแขกแล้วผลอยหลับไปทั้งที่มิได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เรี่ยวแรงของนิดามีไม่มากพอที่จะพาบิดาขึ้นห้องนอน สิ่งที่นิดาทำเป็นก็เพียงบากบั่นเช็ดหน้าขัดแขนให้บิดาด้วยผ้าขนหนูชุมน้ำอุ่น เช้าเมื่อบิดาหายเมาบิดาชอบพูดพร่ำแม้กระนั้นคำกล่าวขอโทษ แล้วก็สั่งไม่ ให้นิดาถ่างตารอคอยเพื่อปรนนิบัติวัตถากบิดาอีก “กลับไปอยู่ที่บ้านกันนะบิดานะ”
นิดาเอ่ยชักชวนด้วยเสียงคละเคล้าฟูมฟาย “วันพรุ่งยามเช้าค่อยมาเก็บ…..กระดูกแม่แต่เช้า” นิดาอึกอักอยู่เป็นเวลายาวนานกว่าจะหลุดคำว่า “กระดูก” ออกมาได้ บิดายืนขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง จนกระทั่งนิดาจำเป็นต้องเข้าพยุง บิดาลูกเดินเคียงกันผ่านศาลา ตั้งศพซึ่งร้างราผู้คน บรรยากาศในวัดดูเหมือนกับว่ากันไปหมด มันแอบแฝงไว้ด้วยความซึมเศร้าซึมแล้วก็เต็มไปด้วยกลิ่นของความตายลอยแซกอยู่ ในดูเหมือนจะทุกอนูอากาศ”หนูขับขี่รถให้…บิดานั่งพักให้สบายนะคะ” นิดาขันอาษา ซึ่งไม่ถูกไปจากธรรมดาที่นิดาจะไม่ยินยอมขับขี่รถในกรุงเทวดาละเว้นใน คราวจำเป็นจริงๆถึงแม้ว่านิดาจะเป็นนักขับรถที่มีฝีมือแม้กระนั้นเธอกลับแพ้กับภาวะการจราจรที่ชุลมุนไร้ระเบียบในกรุงเทพฯ สองบิดาลูกไม่ได้พูดบอกกันแม้กระทั้งคำเดียวในกลางทางจากวัดจนกระทั่งบ้าน นิดาส่งให้บิดาลงที่หน้าบ้านและหลังจากนั้นก็ค่อยนำรถยนต์เข้าหยุดเก็บในโรงรถ เมื่อเธอเดินเข้าบ้านก็มองเห็นบิดานั่งจมในโซฟาตัวโปรดในโทรศัพท์มือถือแก้วดื่มเหล้าสีอำพันแก่เนื่องมาจากผสมเจือจางด้วยน้ำเย็นเพียงนิดหน่อย”ขึ้นนอน ก่อนเถอะลูก ไม่ต้องคอยบิดา” บิดาพูดด้วยเสียแหบ “บิดาอย่าดื่มมากนักนะคะ…หนูขอตัวอาบน้ำแล้วจะลงมาหาอะไรให้แกล้มนะคะ” “อย่างลำบากเลย ลูก..หมดแก้วนี้บิดาก็จะขึ้นนอนแบบเดียวกัน”
นิดาเดินขึ้นบรรไดไปยังห้องของตนเองบนชั้นสองอย่างเหงาหงอย ชำเลืองตาดู ประตูห้องนอนรวมของบิดาแล้วก็แม่ซึ่งนิดามักมากยินเสียงทั้งคู่ท่านคุยหรือหยอกล้อกันเป็นนิจในช่วงชีวิตวันชื่นคืนสุข เธอ วางกระเป๋าหิ้วบนโต๊ะแต่งตัวเมื่อก้าวเข้าในห้องนอนเล็กกระทัดรัดส่วนตัวภายหลังปิดแล้วก็ล๊อกประตูด้วยความคุ้นเคย เงาสะท้อนใน กระจกเป็นหญิงสาวสวยหวานใสรูปไข่แล้วก็ผมยาวสลวยดำขำเป็นเงาเงา แม้ว่าจะไม่มีซึ่งเครื่องประทินโฉมใดๆก็ตามประกอบกับดวงตาสวย ซึ้งซึ่งขณะนี้แดงกล่ำจากการร่ำไห้โดยตลอด แม้กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามบริสุทธิ์นั้นด้อยลงอะไร ชุดสีดำสนิดที่ใส่อยู่ขับให้ผิวขาว เป็นยองใยนั้นขาวนวลเพิ่มขึ้น เธอเอื้อมมืออ้อมไหล่ไปปลดตาขอเสื้อแล้วก็รูดซิปลงจนกระทั่งกึ่งกลางข้างหลัง ก่อนจะก้าวผ่านชุดที่ถอดออกเปิดเผยให้ เป็นร่างสวยอ้วนอิ่มในยกทรงผ้าลูกไม้สีขาวนวลตัดกับถุงน่องแบบสุดกำลังสีดำสนิทซึ่งเธอรูดผ่านเรียวขาทั้งคู่ออก ภายหลังพิงชุด ที่ถอดออกมาจากตัวไว้บนราวพระจันทร์วผ้า ส่วนถุงน่องที่ถอดออกนั้นเธอม้วนเป็นก้อนกลมแล้วโยนลงตระกร้าผ้าอย่างเที่ยงตรง เธอเอื้อมมือทั้งยัง สองไปด้านหลังอีกรอบเพื่อปลดตาขอบราเซียซึ่งหุ้มห่อผุดมถันอันยกชันออกเปิดเผยให้มองเห็นพลูเนื้อขาวนวลแล้วก็ยอดควรอยสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น เต็มตาชั่ววูบหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมือไปคว้าผ้าที่มีไว้เพื่อเช็ดตัวขนหนูผืนใหญ่มาหุ้มห่อกายจนกระทั่งมิดชิดแล้วเดินอ้อมปลายเตียงไปยังห้องสุขาความ เมื่อยล้าทำให้นิดา ปรารถนาแช่ลงไปในน้ำอุ่นแล้วก็หลับตาลงครู่หนึ่ง เธอเปิดน้ำร้อนแล้วก็น้ำเย็นลงในอ่าง รวบผมยาวสลวยนั้นขมวดเป็นมวย หละหลวมๆปลดผ้าที่มีไว้เพื่อเช็ดตัวออกพิงบนราวแล้วก็ใช้นิ้วเกี่ยวเครื่องประดับตัวจิ๋วชิ้นในที่สุดออกทางปลายตีน ร่างอ้วนอิ่มสวยระหงซึ่งขณะนี้แก้ผ้า ขาวมากอยู่ในแสง ก้มต้วลงใช้มือวักน้ำในอ่างคลำบริเวณใบหน้าเพื่อทดลองอุณหภูมิ “อุ่นพอดี” เธอคิดในใจ
ปิดก๊อกทั้งคู่แล้วก้าว นอนลงยาวเหยียดในอ่างอาบน้ำ ความอุ่นของน้ำทำให้กล้ามที่เมื่อยล้าเริ่มบรรเทา เธอหลับตาลงในความเงียบงันซึ่งมีเพียงแต่ เสียงน้ำหยดเป็นจังหวะจากก๊อกน้ำซึ่งปิดไม่สนิทแล้วผลอยหลับไปอย่างอ่อนล้า ความเย็นเยียบของน้ำในอ่างปลุกให้นิดาตื่นอีกรอบ ภายหลังหลับไปนานจนกระทั่งน้ำอุ่นนั้นเย็นเยียบ เธอชำระล้างให้กับตนเองอย่างเร็ว เช็ดตัวจนกระทั่งแห้งคว้าชุดที่มีไว้สำหรับใส่นอนบางเบามาสวม หัวใจ รำลึกถึงบิดาอย่างเป็นห่วง เมื่ออ้าประตูห้องนอนแล้วก็มองเห็นไฟด้านล่างยังสว่างอยู่ก็เลยมั่นใจได้ว่าบิดายังไม่ขึ้นนอน ภาพที่นิดามองเห็นเมื่อเดินเข้าไป ในห้องรับแขกเป็นบิดาหลับคอพับอยู่บนโซฟาตัวโปรด ขวดสุราที่รกร้างว่างเปล่าล้มกลิ้งอยู่ที่ปลายตีน นิดาได้กลิ่นสุราคลุ้งจากลมหายใจ ของบิดาเมื่อเธอยอตัวลงข้างโซฟา “บิดาขา” เธอเรียกผู้เป็นพ่อพร้อมด้วยเขย่าร่างนั้นเพื่อหวังปลุกให้ตื่นห้องนอนแม้กระนั้นไม่เกิดผล เธอ เรียกบ่อยๆแล้วก็เขย่าบิดาแรงขึ้นจนได้ยินเสียงขานตอบในคอ “ขึ้นนอนด้านบนเหอะบิดา ด้านล่างยุงเยอะแยะ” บิดาสะลึมสะลือยืนขึ้นอย่างว่าง่าย โอบไหล่นิดาไว้หละหลวมๆกลิ่นสบู่แล้วก็สาปสาวหอมละมุน เบาๆปลุกความรู้สึกเร้นลับในตัวของชายผู้เป็นบิดา ชนชาติญานดิบส่งกระแส
ปลุกให้อวัยวะที่ผู้ชายที่เหี่ยวด้วยวัยแล้วก็ความมึนเมาให้ยกชันขึ้นโดยที่นิดาไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น เมื่อเธอพยุงให้ บิดานอนลงบนเตียงบิดาก็ไม่ได้ละมือออกมาจากไหล่กลับรั้งร่างเล็กนั้นล้มทับลงบนตัวบิดาด้วย “นวล…นวลคะ..บิดานึกถึงนวลอย่างมาก” ในความตื่นตระหนก นิดาได้ยินเสียงแหบของบิดาเรียกชื่อแม่ เธอเพียรพยายามกระทั่งถึงตนเองออกมาจากอ้อมแขนนั้นแม้กระนั้นไม่เป็นผล อ้อมกอดแข็ง แข็งของบิดากลับกอดรัดร่างอรชรของนิดาแน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะนิดาจะคาดการณ์ ร่างของหล่อนก็ถูกเหวี่ยงข้างร่างของบิดาโดยมีร่างของ บิดาโถมทับข้างบนพร้อมๆกับปากบางก็ถูกตามติดแนนด้วยปากดกหนักของบิดา เรี่ยวแรงที่มีน้อยนิดของนิดาดูเหมือนจะแห้งเหือดสลาย ไปจนกระทั่งหมดเกลี้ยง มือไม้ของบิดาก็ไม่ได้อยู่นิ่งกลับลูบไล้ไปตามโนนเนื้อภายใต้เสื้อนอนซึ่งลื่นเป็นเงานั้นอย่างหนัก แวบหนึ่งที่นิดาชำเลือง มองเห็นดวงตาแดงก่ำของบิดาทำให้นิดาใจหายใจคว่ำวูบ แววตานั้นแตกต่างจากแววตามอ่อนโยนของบิดาที่นิดารู้จักดีมาทั้งชีวิต ในความงุนงง นิดารู้สึกเย็นวาบเมื่อมืออันแข็งแรงของบิดาลากเสื้อนอนบางเบาออกมาจากตัวเปิดเผยให้มองเห็นปทุมถันขาวผ่อนแข็งครัดเคร่งเต็มตา บริเวณใบหน้าที่ ชื้นแฉะแล้วก็เป็นเงาด้วยรอยเปื้อนเหงื่อของบิดาซุกไสร้ลงบนโน้มเนื้ออันขาวนวลนั้น ปลายลิ้นชื้นแฉะไล่เลาะริเวณปลายติ่งของยอดปทุมถัน สลับไปๆมาๆทั้งสองข้าง นิดาได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นปึงปังอยู่ในอก ความสะดุ้งแล้วก็ตลึงงันบางส่วนแม้กระนั้นความเสียววาบที่ไม่เคย รู้สึกมากมายก่อนเยอะมากนัก นิดาบิดกายแอ่นอกปทุมถันสู้แรงโลมเลียของปลายลิ้นผู้เป็นพ่อช่วงนี้ที่ระดับล่างหว่างขารู้สึกเหนียวหนืดๆมีน้ำไหลออก มาผู้เป็นพ่อจัดแจงกับเสื้อผ้าตนเองจนกระทั่งแก้ผ้า เห็นเอ็นพื้นที่ยกตั้งสีอมดำๆขนาด1ในสามของข้อมือคุณถึงเวลานี้ชุดที่มีไว้สำหรับใส่นอนที่คุณ สวมหลุดไปตั้งแต่เมื่อไรไม่เคยรู้ทราบแม้กระนั้นช่วงนี้บริเวณใบหน้าของผู้เป็นพ่อ กำลังซุกอยู่ที่รอยแยกของหล่อนที่มีขนปกคลุมบางส่วน เสียวสุข… คนหล่อยเผลอครางครวญออกมา โอววว เสียวจังราวกับผู้เป็นพ่อยิ่งเหิมใจใช้ลิ้นตวัดควรอย เม็ดแล้วก็ร่องหนักขึ้น น้ำยิ่งเอ่อออกมามากมายจากร่อง เธอกอดลำตัวพ่อที่ล่ำสันไว้แน่น ครู่หนึ่ง ..ผู้เป็นพ่อก็แยกขาเธอออกมาจากกัน เวลานี้เธอทั้งยังตื่นกลัวนิดๆแม้กระนั้นกว่าจะคิดสิ่งใดได้… เอ็นเนื้อผู้เป็นพ่อได้กระทบจ่อที่รอยแยกของคุณ แรงกดโถมใส่ของผู้เป็นพ่อหัวเอ็นเนื้อ เพียรพยายามฝ่ารอยแยกนั้นได้เพียงแต่ท่อนหัวนิดหน่อย คุณรู้สึกเจ็บแปลบจนกระทั่งร้องออกมา …โอยเจ็บ
ผู้เป็นพ่อกระซิบบอกข้างหูบอกคุณว่าประเดี๋ยวก็หาย พร้อมด้วยหยุด แรงกดดันกระเด้าไว้ …ดูดปากแล้วก็หัว ปทุมถันคุณ มันทำให้น้ำหล่อลื่นที่ร่องยิ่งไหลออกมาก ผู้เป็นพ่อได้อาศัยจังหวะนี้โถมแรงกดเข้าไปอีกนิด.. ตกใจเฮือก…เธอรู้สึกเจ็บ ปวดไปทั่วร่าง ..ราวกับจะจับไข้ แม้กระนั้นความเสียวสุขก็มีแวบๆหนึ่ง..เอ็นเนื้อมันเข้าไปแทบครึ่งอันหล่อยเกร็งมือจิก ที่แผ่นข้างหลังผู้เป็นพ่อ จิก…จิก….เกร็ง….ผู้เป็นพ่อยังคงโลมเลียแถวซอกคอคุณ แล้วก็ดันเอ็นเนื้อเข้า…เข้า..จนกระทั่งมิด….ช่วงนี้เป็นความเจ็ปวดสุด อย่างมาก..ขาคุณ หมดเรี่ยวแรง..เขายังค้างเอ็นเนื้อไว้โดยยังไม่ขยับเขยื้อน เพื่อลดความเจ็บของนิดา ช่วงนี้คุณคิดว่าที่ร่องรอยแยกของคุณจะขับน้ำ
บางสิ่งบางอย่างออกมาเยอะมาก…ผู้เป็นพ่อเริ่มขยับเขยื้อน กระเด้าเข้า ออกๆช้าๆเบาๆคุณรู้สึกความเจ็บต่ำลงเหลือความเสียวแปลกๆทวี คูณขึ้นจนกระทั่งลืมตัวแอ่นกระเด้าแรงกระเด้านั้น สอง สามที …ข้างในรอยแยกคุณมีความรู้สึกตอดตุบๆหลายหน กับการเข้าออกของเอ็นเนื้อผู้เป็น พ่อ ต่างคนมีเหงื่อทรุดโทรมกาย ชั่วประเดี๋ยวคุณมองเห็นเรื่องผิดปกติสำหรับในการโยกเข้าออกของเอ็นเนื้อ…มันเร็วมาก..เร็วขึ้น เข้าออกเร็วขึ้น บริเวณใบหน้า เหยเกของพ่อแล้วก็เสียงครางสั่นเครือซีดเผือด ดัง โอยยยยยย…ผู้เป็นพ่อรีบดึงเอ็นเนื้อท่อนนั้นออกมา แล้วก็ใช้มือกำรูดเข้าออกๆสองสามครั้ง จนกระทั่งน้ำขุ่นขาวพุ่งออกมากองที่ท้องน้อยแล้วก็สะดือคุณ กลิ่นมันแปลกๆแม้กระนั้นคุณมีความรู้สึกที่แปลกว่ามันสุขยังไงบอกผิด ผู้เป็นพ่อทิ้งร่างอันบึกบึนฮวบคงจะทับคุณ พร้อมด้วยกอดรัดร่างคุณ คุณได้ยินคุ้นๆว่า”บิดาเป็นสุขมากมาย” คุณก็กอดตอบผู้เป็นพ่ออย่าง หละหลวมๆแล้วก็ต้องการจะพูดว่า “แบบเดียวกันจ้ะ”แม้กระนั้นมันพูดไม่ถูก ก็เลยหลับไปด้วยความเหนื่อยแล้วก็กลางคืนนั้นก็ผ่านไป..ผ่านไป….แม้กระนั้นคุณจะจำ ชั่วกับชั่วกัลป์
