เสพสม ไฟใต้น้ำ
พี่เกสรเจ้าของบ้านที่ผมเช่าอยู่เป็นคนอัธยาศัยดี น่าเลื่อมใสไม่กระจุกกระจิก อาการเป็นคนสนุกสนานรื่นเริง แม้กระนั้นลึกๆรู้สึกจะอมเศร้าหมอง เป็นเด็กต่างจังหวัด สำเร็จการศึกษาการค้าแล้วกำเนิดหลงใหลจังหวัดกรุงเทพมหานคร ทำงานในห้าง กระทั่งกลายเป็นเมีย ของเจ้าของห้างพ่อม่ายภรรยาตาย มาตั้งแต่พี่เกสรอายุยี่สิบสอง ไม่มีผู้สืบสกุลเนื่องจากว่าพี่เกสรเป็นหมัน อยู่กันมาสิบปี เจ้าของห้างหมดลูกกระสุน อุตสาหะยิงอยู่กว่าครึ่งปี ก็ไม่เปรี้ยง ทรมาทรกรรมอารมณ์พี่เกสรยิ่งนักกระทั่งพี่เกสรขอความช่วยเหลือให้เลิกกวน เจ้าของห้างก็เลยอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนไม่แวะเวียนมาอีก
ในตอนที่ผมเข้ามาอยู่แทนเพื่อนพ้องไม่เคยมองเห็นหน้านายห้าง ผัวของพี่เกสรเลย กระทั่งผมมาอยู่เป็นปีลำดับที่สาม ผัวพี่เกสรตาย พี่เกสรได้รับส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรมนายห้างเตรียมพร้อมรวมถึงที่ลูกๆจัดแจงให้เพิ่มอีก พี่เกสรคิดย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านนอก ก็เลยบอกขายบ้านพร้อมที่ ขนข้าวขนย้ายกลับไปแล้ว ฝากให้ผมช่วยเลี้ยงดูไปพลางผมก็จะเรียนจบ ออกดำเนินงานต้องหาที่อยู่ใหม่ ระหว่างนั้นพี่เกสร กลับไปกลับมาแบบเช้าตรู่มาเย็นกลับ มาหาสั่งซื้อของใช้ไปเปิดร้านที่ต่างจังหวัด ครั้งใดก็ตามเข้าจังหวัดกรุงเทพมหานคร ก็จะแวะมาดูบ้าน ถามข่าวคราว
วันหนึ่งพี่เกสรแวะมาตามธรรมดา ผมกลับมาจากด้านนอก รู้สึกปวดเหมื่อยตามเนื้อตามตัวจะไม่สบาย บอกพี่เกสร ขอไม่อยู่คุยด้วย รู้สึกไม่ค่อยสบาย จะรับประทานยาแล้วพัก พี่เกสรเอาหลังมืออังที่หน้าผากผม แล้วไล่ผมให้รีบทานยา พูดว่าหัวร้อนมากเลย ผมขึ้นบ้านแล้วเปลี่ยนเสื้อโจงกระเบนผ้าขาวม้า รับประทานยาแล้ว รู้สึกเวียนหัว เลยล้มตัวนอน นานเยอะแค่ไหนไม่เคยรู้ได้ แม้กระนั้นรู้สึกเหงื่อแฉะหมดทั้งตัว ช่วงเวลาเดียวกันรู้สึกเสมือนคนใดมาเช็ดหน้าให้ แล้วเลื่อนไปซอกคอ จั๊กกะแร้ แล้วลุกไป ผมหรี่ตามอง มองเห็นข้างหลังไวๆพี่เกสร ชั่วประเดี๋ยวเดินกลับมา อาจจะเอาผ้าไปซักชุบน้ำมาใหม่ ถูตามข้อพับ แล้วลงไปตอนเท้า ลุกไปซักผ้าชุบน้ำใหม่มาอีก ครั้งนี้ปลดเงื่อนผ้าขาวม้าออกถูไปบริเวณท่อนสวาทดูทีท่าลังเลๆแล้วก็แล้วสิ้นสุดลงด้วยการจับกุม แบบอำนาจอยู่ในกำมือ ถอกขึ้นลงโดยกำหละหลวมๆท่อนแข็งยาวโด่ พี่เกสรกลายเป็นคลำเบาๆสองมือ ครู่หนึ่งก็หยุดนุ่งผ้าขมวดปมผ้าขาวม้าให้ใหม่ เอามืออังที่หน้าผาก พร้อมเรียกถาม
“น้องพลๆเป็นยังไง ค่อยดีขึ้นขึ้นไหม”
ผมทำเป็นเพิ่งตื่นตัว ผงกศีรษะขึ้น มือกางตะครุบผ้าขาวม้า ด้วยเจตนาให้ท่อนสวาทลอดริมผ้า ลอดระหว่างนิ้ว ตั้งโด่ขึ้นมา พี่เกสรแกล้งทำว่าพึ่งมองเห็น อุทาน
“อุ้ย ตาเถรหัวถอก กระจู๋โผล่”
ผมก็แกล้งทำสะดุ้ง มือจับโคนโชว์หัว ถอกพลางขออภัย “พี่ผมขออภัย ไม่เจตนา”
พี่เกสรพูดว่ามองเห็นผมป่วย ก็เลยยังรอคอยอยู่ มองเห็นบ่ายสามแล้วยังไม่ตื่น ก็เลยขึ้นมามอง มองเห็นนอนเหงื่อโชกเลยเอาผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ หายแล้วจะเชิญชวนไปทานข้าว รีบให้ผมแต่งตัวไปพบอาหารกัน พวกเราออกไปไกลหน่อยไปถึงสามย่าน ห้องอาหารยุคนู่นก็ยังไม่ภูมิฐานเสมือนเดี๋ยวนี้ กว่าจะรับประทานอะไรเสร็จตรงเวลาห้านาฬิกาเย็น ไม่มีรถยนต์กลับไปอยู่ที่บ้านนอก เลยถอยกลับบ้าน มาตั้งตัวที่พำนักพักพิงของผม พี่เกสรสรุปกล้วยๆว่าขออาศัยนอนด้วย พี่เกสรย้อนเรื่องที่จะกลับไปอยู่ที่บ้านนอก ว่าตั้งแต่เข้ามาเรียนหนังสือกระทั่งบังเอิญแต่งงาน ก็ไม่ค่อยได้กลับไปอยู่ที่บ้าน บิดามารดาก็อายุมากไม่มีผู้ใดดูแล มีพี่ชายก็แยกไปอยู่ต่างอำเภอ ให้ผุสดี ไปอยู่เป็นเพื่อนปู่ย่า
สำหรับพี่เกสรสิ้นชีพเจ้าของห้างและจากนั้นก็เสมือนตัวผู้เดียว ลูกๆเจ้าของห้างเขาก็โตๆอายุแก่กว่าพี่เกสรทุกคน ไม่ได้อยากทราบให้เป็นที่กลุ้มใจแล้วก็สงสัยของลูกบุญธรรม ว่าแม่เลี้ยงจะมีสามีใหม่ กลัวกระทำตัวไม่ดี ก็เลยตกลงใจกลับไปอยู่ที่บ้านนอก จบการค้าใหม่ๆไปสมัครงาน เจ้าของห้างรับทำงานด้านบัญชี อยู่มาปีหนึ่งเมียเจ้าของห้างเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เจ้าของห้างซึมไปยาวนานหลายวัน รู้สึกเห็นใจ ก็เลยรอช่วยเอาอกเอาใจ กระทั่งเจ้าของห้างบันเทิงใจขึ้น ปัจจัยที่กลายเป็นภรรยา ก็เนื่องจากว่าไปตามหนี้ลูกค้า ที่ชนบท พักบังกะโลเดียวกัน เสร็จเจ้าของห้างกึ่งกลางความมืดดำคืนนั้น เลือดสุดกำลังนอน
เจ้าของห้างพอใจที่ได้เปิดบริสุทธิ์ บอกภรรยาเก่ายังไม่มีเลือดเลย ได้พี่เกสรถึงเลือด ก็เลยโปรดพี่เกสรเป็นพิเศษ พี่เกสรเองพูดว่าไม่รู้เรื่องเสพสมมาก่อน พึ่งทีแรกเจ็บจี๊ดเดียว แม้กระนั้นแสบนาน กว่าจะได้กันอีกใช้เวลายาวนานหลายวัน แต่ละครั้งก็อยู่กันกึ่งกลางความมืดดำ อายความสว่าง ที่เรียกเจ้าของห้าง ว่าตามพี่เกสร คงจะเรียกเถ้าแก่ เนื่องจากว่าเป็นชาวจีน แล้วก็เป็นชนิดจิ้มจึกประเดี๋ยวออก แม้กระนั้นจิ้มทีละหลายหน ไม่เล้าไม่โลม เปิดใส่เลย ไม่ต้องเปลือย เสร็จแล้วหันหลังอิงกัน โกรธยะข้างหลังเจ้าของห้างอ่อนเปียกอายุหกสิบกว่า ปั่นๆเพียงพอแข็งกลับขึ้นใส่ หน้าจอข้างหน้าหอก็งอไปงอมา ใส่ไม่เข้า
พี่เกสรเล่าว่าก็นอนกางรอคอยตามเดิม ไม่เคยช่วยจับช่วยปั่นกันมาก่อน บางคืนอุตสาหะอยู่แทบสว่าง ก็ไม่เป็นผล พี่เกสรว่าบางคืนก็เอ็ดเข้าให้ ว่าเอามิได้ ก็ยังจะเอา เจ้าของห้างก็แก้ตัวว่า กลัวพี่เกสรจะยากจน แล้วไปให้บุคคลอื่น เพียงพอแดกดันเข้าว่าเอ้อจะไปวานบุคคลอื่นทำให้ เจ้าของห้างกอดแล้วร้องไห้พี่เกสรจำต้องปลอบประโลมว่ารักเจ้าของห้างผู้เดียว อยู่กันปกติไม่ต้องทำกันก็ได้ ที่สุดเล่านั้งเคียวไม่ดี ก็ไม่มากมายวนหัวใจพี่เกสร อีก แม้กระนั้นเตรียมพร้อมแบ่งปันทรัพยสินให้พอควรพี่เกสรก็หมั่นไปดูแลเป็นประจำ กระทั่งล่วงผล่อยไปเสมือนใบไม้เหลือง
เสร็จงานฌาปนกิจศพก็แยกตัวออกมาไม่เกี่ยวข้องกับมรดก ลูกๆเจ้าของห้างก็พึงพอใจ ยังแบ่งอะไรให้อีก ก็แค่ขอความช่วยเหลือให้อยู่หม้ายไปตลอด พี่เกสรพูดว่าใจจริงก็ไม่คิด เนื่องจากว่าไม่ค่อยพึงพอใจ อาจจะเนื่องจากว่าไม่รู้เรื่องมาก่อนแล้วมาไม่เคยรู้รสอีก รู้สึกเช่นกันแม้กระนั้นไม่มากมายไม่ได้อยาก เป็นภรรยาก็ได้แม้กระนั้นรองรับ กำลังทำก็ยังอายๆดีนายห้างถูกใจปิดไฟทำ ช่วยลดอายได้มาก ผมถามพี่เกสรว่าเคยแฮปปี้ยอดเยี่ยมไหม พี่เกสรก็ว่าแฮปปี้มั่ง แม้กระนั้นไม่เคยคร่ำครวญเสมือนผุสดีเวลามีอารมณ์ในตอนที่ทำกับผม พี่เกสรแอบมองเห็นผมกับผุสดีกำลังเสพเหมาะกัน รุ่งเช้าวันหนึ่ง พูดว่าในชีวิตพึ่งเห็นจะๆถึงแม้ว่าตนเองเคยแม้กระนั้นทำในความมืดดำ แล้วก็มามองเห็นของแท้จะๆอีกตอนเช็ดตัวให้ผมวันนี้ ไม่เคยจับก็ได้จับ ไม่คิดไม่คิดว่าจะใหญ่แล้วก็ยาวอย่างงี้ ตอนนอนให้เจ้าของห้าง ได้แค่นอนถ่างขา เจ้าของห้างเข้าคลุกสอดใส่เอง ดันไถไปไถมากมายว่าจะตรงร่องรูเลื้อยเข้าไปได้ แล้วรัวกระเด้ากระทั่งเสร็จ เสียวบ้างไม่เสียวบ้าง แล้วลงกลับข้างหลังอิงกัน เหนียวเหนอะนักก็ลุกไปล้าง แล้วกลับมานอน หลายคืนเจ้าของห้าง เจ้าของห้างก็กระซิบกระซาบ บอก
“คืนวันนี้นอนร่วมกันนะ”
คืนวันนี้พี่เกสรบอกขออาศัยนอนด้วย จะบอกเป็นนัยๆหรือไม่ก็ไม่เคยรู้ แม้กระนั้นก็น่าทดลอง เนื่องจากว่าไม่มีพันธะอะไรผูกมัดพี่เกสรแล้ว เป็นแม่ม่ายร้อยเปอร์เซ็นต์ ความเป็นจริงรูปพรรณสัณฐานพี่เกสรสวยสดงดงามสง่า ผิวพรรณผุดผ่อง รูปทรงมาตรฐานหุ่นดารานางแบบ อายุสามสิบสามยังเยี่ยม มองดูผาดๆว่างามแล้ว เพียงพอมองดูแบบเพ่งพินิศแบบมองดูเข้ายิ่งยวนหัวใจ ดวงตาเยิ้มหวานกวนราคะ มองตาเมื่อใดไหววูบกระทั่งแข็งโด่ เสน่ห์ยวนเชิญชวนเสพสม ไม่เคยเจอหญิงใด
ผมขออาบน้ำชำระล้างร่างกาย นุ่งผ้าขาวมาออกมาจากห้องอาบน้ำถือผ้าขนหนูผืนใหญ่ส่งให้พี่เกสร บอกให้อาบน้ำ ผมนั่งอ่านหนังสือรอคอย พักใหญ่พี่เกสรออกมานุ่งผ้าขนหนูนุ่งกระโจมอก ทิ้งเสื้อผ้าพิงไว้ภายในห้องอาบน้ำ มานั่งลงที่ขอบเตียงบอกให้ผมปิดไฟ ปิดทุกดวง ไฟโป๊ะจ้ายหัวเตียงปิดเป็นดวงในที่สุด บอกพี่เกสรนอนภายในผมนอนภายนอก ต่างคนต่างนอนหงายแหนมองเพดาน เงียบกันท่ามกึ่งกลางความมืดดำของคืนข้างแรม พักใหญ่ผมหันไปหา จังหวะเดียวที่พี่เกสรก็หันมาจ้องตากันกึ่งกลางความมืดดำ ผมขยับเขยื้อนตัวเอียง กระซิบกระซาบเบาๆขอบหู
“ขอนะพี่”
โดยไม่ฟังคำตอบ มือก็คลำไปพบเงื่อนผ้าขนหนูไล้ไปเหนือขอบผ้า เท้าก่ายเพียงแค่เหนือหัวเข่าแล้วเลื่อนขึ้นไปวางนิ่งบนเนินสรวงสวรรค์ ขยับเขยื้อนตัวให้หัวเข่ากดหัวหน่าวไปๆมาๆ มือกระแซะเงื่อนผ้าออกโลมคลำเนินนม จากสัมผัสรู้ดีว่ายังตูมตั้งราวเต้าสาวบริสุทธิ์ จุกนมยกชัน เจ้าตัวอาจจะเสียวซ่านขนลุกเกลียว คลำซอกคอซอกหู ไล้ลงสีข้าง มาหลุมสะดือ ท้อง เนินหน่าว เอาขาหลีกมือ ทำปูไต่ไล่ลงตามเนินกระจังสวาท นิ้วกลางกระดุกกระดิกกระดุกกระดิกตามแนวร่อง ย้อนขึ้นไล่ลง ในจังหวะไล่ลง งอนิ้วกลางลงร้องรูบิดมือคว่ำให้หงายขึ้นทำให้นิ้วแงะร่องรู ร่องขมิบตอดนิ้ว พี่เกสรถอนหายใจ
ผมกลับตัวเข้ายอตัวกึ่งกลางระหว่างขา ใส่ท่อนดันขูดเข้าท่อธาราสรวงสวรรค์ รู้สึกแน่นนุ่มหุ้มห่อหุ้มลำท่อนตลอด เบาๆไหล ไปกระทั่งสุดทางรัก พี่เกสรปากเป่าลม แอ่นกระดอนสู้ จบด้วยถอนใจใหญ่ยาว
“พี่ทดลองเลวสักหนึ่งครั้ง นะน้องพล”
ผมกดท่อนลำสรวงสวรรค์แช่นิ่ง เอามือไปคลำหน้าพี่เกสรแผ่วเบา หอมแก้มขวาซ้าย ก้มกระซิบกระซาบข้างหู
“พี่ นี่ไม่ใช่ความชั่วนะพี่ เป็นความรักที่พี่เต็มอกเต็มใจ ผมก็เต็มอกเต็มใจ เป็นความอยากของคนสองคน ไม่ใช่คนใดทำคนใดถูกทำอย่างที่พี่เคยคิดเคยรู้สึก แม้กระนั้นเกิดเรื่องที่พวกเราด้วยกันทำด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยความรัก เรียกว่าร่วมประเวณี”
ผมเริ่มกระเด้าต่ออย่างเนิบๆแล้วรู้สึกถึงการกระดอนรับของพี่เกสร
“พี่มองเห็นไหมพวกเราช่วยเหลือกันร่วมมือกัน ผมกระเด้า พี่กระดอน พวกเราด้วยกันนะพี่ พี่จำต้องคลายอารมณ์ปล่อยใจสุดกำลังนะพี่นะ ไม่ต้องเขินไม่ต้องอาย”
ผมกระเด้ายักย้ายถ่ายเทแกว่งไปๆมาๆ เอียงให้ขูดซ้ายย้ายมาขูดขวา คุณก็เชื่อตามยักย้ายถ่ายเทแกว่งสะโพกไปๆมาๆพร้อมกระดอนหน้ากระดอนข้างหลัง ปากก็ซี๊ดซาดเริ่มจากค่อยเป็นแรงขึ้นๆมือที่คลำหน้าบอกให้รู้ดีว่าหน้าเหยเก ตาหลับ ผมก็เลยเอื้อมไปกดไฟโป๊ะจ้าย สว่างขึ้นเห็นร่างขาวงามดิ้นแกว่งตอบสนองการเสนอด้วยความสมัครใจ กะประมาณว่าคุณจะเข้าเส้นสวรรค์
ผมก็รีบรัวกระเด้าถี่ขึ้น พี่เกสรชูสะโพกกระดอนลอย แกว่งสะโพก เนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมอารมณ์ ร่องรูสรวงสวรรค์ขมิบ ตอด ดูดร้ายแรง คีบปลายท่อนสรวงสวรรค์ แล้วเขยื้อนไล่มาตามลำ หมดแรงที่ปลากร่อง อย่างกับแรงร้อนที่แทรกความเย็นขึ้นมาของไฟใต้น้ำ พี่เกสรหมดแรงสงบนิ่งไป นานเป็นชั่วโมงผมตระกองกอดร่างคุณหลับไปตื่นด้วยความหนาวเยือกด้วย อากาศสิ้นเดือนธ.ค. ตอนสามนาฬิกา พี่เกสรขยับเขยื้อนตัว ผมกอดรัด “
หนาวนะพี่นะ กอดผมแน่นๆสิครับผม “
พี่เกสร กอดรัดผม กระทั่งสองร่างเปลือยตามติดแน่น ตาจ้องหน้าผมนิ่ง บริเวณใบหน้าละไมด้วยรอยยิ้ม “พี่สุขสบายอย่างยิ่งพี่ปล่อยหัวใจแล้วก็คลายอารมณ์ ตามน้องพลว่า ไม่เคยรู้สึกว่าความสำราญเป็นอย่างงี้ ลืมตัวลืมหมดทั้งหมดทุกอย่าง มีสามีมาสิบกว่าปี ไม่เคยสุขอย่างงี้” ผมห่อมือคลำเต้าเต่งตึง กระทั่งจุกนมพี่เกสรยกตั้ง พี่เกสรเอานิ้วกดหัวนมให้หลบกลับเนื่องจากว่าซ่าเสียว พี่เกสรจับท่อนสรวงสวรรค์ คลำไปๆมาๆ พูดว่าพึ่งเคยจับของคนแก่เป็นครั้งแรกตอนเช็ดตัวให้ผม เปลียบเปรียบเทียบขนาดจากการเข้าไปทิ่มแทงอยู่ในร่องว่าใหญ่มากยิ่งกว่ายาวกว่าของเจ้าของห้าง และจากนั้นก็มันกว่า
ผมจำต้องสอนพี่เกสรให้กำหละหลวมๆแล้วรูดดวงขึ้นลง เนื่องจากว่าของผมไม่มีเนื้อหนังห่อหุ้ม พี่เกสรพ้อว่า ของสามีอยู่กันกว่าสิบปีไม่เคยจับ มองเห็นก็ไม่ค่อยมองเห็น จะมองเห็นได้ยังไงเมื่อปิดไฟเอากัน พี่เกสรจับของผมเล่น ผมก็เล่นของพี่เกสรมั่ง ใช้นิ้วกลางแตกออกระดิกแล้วควานหาในร่องรูกระทั่งชุ่มฉ่ำน้ำ ลากเอามูกป้ายเม็ดมณี แล้วกดเล่น กระทั่งพี่เกสรกระสับกระส่ายไปทุกรูขุมขน บิดตัวแกว่งไปๆมาๆ เอาปืนใหญ่ประจำฐานยิง ใส่ลูกกระสุนปืนเข้ารังไฟ พี่เกสรเผยอรับ ใส่ยอมรับได้จังหวะ ครั้งนี้เปิดไฟส่อง ผมพยุงหัวพี่เกสรให้มองการใส่
“พี่ดูซิมันมิตรภาพกัน”
ท่อนสรวงสวรรค์คืบหายเข้าร่องเนินสรวงสวรรค์ ผมทำกระเด้าพี่เกสรกระดอนรับ ต่างล้อกันเล่น จ้องตากันทุกหน ยิ้มให้กันอย่างสุขสบาย กระเด้าๆกระดอนๆย้ายบดเสียดสี ชูร่อน แล้วหยุดคุยกันถึงความมัน กระเซ้ากัน ปรับท่าชูขาย้ายแข่งขัน แทงสั่นแท่งยาว เพียงพอเต็มกลั้นพี่เกสรก็ล้อว่า รีบที่สุดเลย คราวนี้แบ่งส่วนบุญกุศลให้เจ้าของห้าง ขยับขาพี่เกสรมาหาม ผมปรับท่านั่งยองเร่งความเร็วกระเด้าราวจักรผัน ทิ่มแทงลงตรงๆยักย้ายถ่ายเทซ้ายขวาขุดบนขุดด้านล่าง เอนลำเสียดสีแตด เร็วกระทั่งแทบลืมหายใจ พี่เกสรร้องลั่นกระดอนอย่างสุดแรงร่อนอย่างสุดเหวี่ยง ขมิบ ดูด ตอด แรงราวจะกัดท่อนให้ขาดติดอยู่ร่อง น้ำอสุจิพุ่งฉีดเข้าร่องรูสรวงสวรรค์อย่างไม่กระเด็นซ่านกระจัดกระจายเลยทุกหยดหยาดหยดพี่ เกสรคีบเก็บทั้งหมดทั้งปวง เสียงคร่ำคร่าคร่ำครวญดังกระหึ่มแล้วเงียบลง
“โอยย อูยย สุดๆเสียวหีที่สุด โอย อูวว เจ้าของห้างคะ เกสรแฮปปี้ที่สุด”
สองร่างเปลือยนอนก่ายกันกระทั่งสายโด่ง แทบลืมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้าของห้าง ซึ่งพี่เกสรกรวดน้ำจริงๆอธิษฐานว่าให้เจ้าของห้างพลอยได้แฮปปี้กับภรรยาด้วย กว่าพี่เกสรจะกลับไปอยู่ที่บ้านนอกได้ จำต้องโทรเลขไปบอกเลื่อนวันกับผุสดี อีกสามวันพี่เกสรก็เลยกลับไปอยู่ที่บ้านนอก ภายหลังไฟใต้น้ำดับสนิท