ในความมืดดำของโรงภาพยนต์…ทั้งยังเจ็บทั้งยังเสียวแม้กระนั้นก็ยอม
หนูเป็นเด็กผู้หญิงที่กำพร้าแม่จ้ะ ชีวิตหนูตั้งแต่จำความได้ก็รู้ว่าตนเองมีแม้กระนั้นแม่เลี้ยงซึ่งหนูไม่เคยเชื่อถือเขาเลย เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่หน้าไหว้หลังหลอก ซึ่งๆหน้าบิดาทำเป็นใจดี ทำเป็นรักเป็นห่วงหนู แม้กระนั้นลับหลังแล้วมากกว่าแม่เสือเสียอีกจ้ะ แม่เลี้ยงหนูเขายังสาวอยู่จ้ะ แม้กระนั้นอย่าให้หนูบอกเลยจ้าค่ะว่าเขางามเพียงใดเพราะว่าหนูรังเกียจเขา ตกลงว่าเขาทำให้พ่อหนู ติดงอมเลยจ้า แล้วก็หลงอย่างยิ่งทีเดียว จะเรียกว่ายิ่ตระหนี่ว่าลูกไส้เลยก็ว่าได้ หนูเลยไม่ได้อยากต้องการจะมีเรื่องมีราวเช่นเดียวกันกับเขา เพราะว่าหนูรักบิดามากมายไม่อยากที่จะให้เขาไม่ค่อยสบายใจ เพียงแค่งานสิ่งเดียวพ่อหนูก็ปวดศรีษะตายแล้วจ้ะ เพราะว่าพ่อหนูเขาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ทุกจำพวกจ้ะ วันๆแม่เลี้ยงเขาไม่ทำอะไรหรอกจ้ะ ดีแต่แต่งองค์ทรงเครื่องยั่วพ่อหนู เขาอ่อนกว่าพ่อหนู 8 ปีจ้ะ อายุโดยประมาณ 30 ปี ส่วนหนูอายุ 18 ปี กำลังเรียนหนังสืออยู่ที่สถานศึกษาแห่งหนึ่งจ้ะ แม้กระนั้นไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะ พ่อหนูเขารักหนูมากมายแม้กระนั้นก็คงจะไม่ พอๆกับแม่เลี้ยง พ่อหนูให้แม้กระนั้นเงินสิ่งเดียว ความอบอุ่นไม่เคยมีให้มากแค่ไหน คงให้แม่เลี้ยงผู้เดียวจนถึงหมดใจ บางเวลาหนูก็คิดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเช่นกัน ต้องการจะฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไป แม้กระนั้นก็มีความคิดว่ามันเป็นบาปมากมาย กระทำตนให้แจ่มใสเบิกบานดีมากกว่า จะเรียกหนูเป็นเด็กใจแตกก็ไม่เชิงนะคะ แต่หนูเป็นเด็กที่ถูกใจท่องเที่ยวช่วงเวลาค่ำคืนมากมาย เธค ผับ ตรงไหนถามหนูได้ทุกหนทุกแห่งทราบไปหมด เพราะว่าท่องเที่ยวมามากมายถัดมากแล้ว บางเวลาบิดาก็เตือนว่าท่องเที่ยวแล้วเที่ยวได้แม้กระนั้นอย่าให้เสียการเรียน แล้วก็เสื่อมเสียก็ตามใจ แรกๆหนูก็เชื่อเขาหรอกจ้ะ แม้กระนั้นข้างหลังๆนี่สิค่ะสิ่งยั่วยุมันมากมายอย่างยิ่ง ทำให้หนูข่มใจมิได้ หนูได้ทราบจะเพศชายคนหนึ่งจ้ะ เขาเล่นดนตรีที่ผับที่หนูท่องเที่ยว พักหลังๆหนูจะไปหลายครั้งในวันหยุดเรียน เพราะว่านักเล่นดนตรีคนนั่นแหละจ้ะ ที่หนูรู้สึกพึงใจในความหล่อความเก๋ของเขา เขาไว้ผมยาวถึงกึ่งกลางข้างหลัง บริเวณใบหน้าคมคายตามสเป็คหนูเลย การแต่งตัวก็ ไม่ต้องกล่าวถึง เท่สุดๆอย่างยิ่งจริงๆไม่ว่าจะดูมุมไหน “น้องๆไปขอเบอร์เพศชายผมยาวที่เล่นออร์แกนให้พี่หน่อยสิจ๊ะ” หนูสั่งให้บ๋อยในร้านค้าซึ่งคุ้นตาชินตาดี ไปขอเบอร์โทรศัพท์ชายผมยาวให้ เพราะว่าเขาเตรียมจะตรงข้ามแล้ว กำลังเก็บอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีอยู่ หนูทำเป็นไม่ดูไปที่วงเขา เพราะว่ายังไม่แน่ใจว่าเขาจะตอบรับกลับมายังไง บางครั้งอาจจะไม่สนใจเลย หรือบางครั้งอาจจะเขียนหมายเลขโทรศัพท์มาให้หนูก็ได้ หนูนั่งหันไปทางอื่น ครู่หนึ่งบ๋อยก็เดินมาหาหนูที่โต๊ะ “พี่เขากล่าวว่าให้พี่นั่งคอยแป๊บหนึ่ง เขาไม่เขียนให้หรอก” บ๋อยบอกกับหนู “อ้าว..สรุปว่าแห้วไป ขายหน้าเลย” หนูมีความคิดว่าตนเองจะขายหน้าจริงๆแม้กระนั้นไม่ใช่อย่างงั้นจ้ะ “ขออภัยครับ ผมไม่มีปากกาหรอก แม้กระนั้นผมจะให้นามบัตรก็ตามใจ” เสียงนุ่มๆเชิญฟังมันทำให้หนูจะต้องหันไปที่ผู้ครอบครองเสียง หนูดีใจมากจ้ะพูดไม่ถูกเลย ก็ชายหนุ่มผมยาวคนนั่นแหละจ้ะ เขาเดินมาใกล้ๆที่โต๊ะแล้วก็นั่งตรงเก้าอี้พื้นที่ว่างอยู่ เพราะว่าสหายหนูมันออกไปดิ้นกันหมด ยิ่งดูใกล้ๆก็ยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูจ้ะ หนูดีใจมากได้แม้กระนั้นยิ้มสวยสิ่งเดียว จนถึงเขาควรจะเป็นข้างเชิญคุยเสียเองจ้ะ “มาบ่อยไหมนะครับ” “นานๆครั้งหรอกจ้ะ” หนูตอบแบบปากไม่ตรงกับจิตใจ ที่จริงแล้วหนูได้มามองเขาตั้งบ่อยครั้งแล้ว แม้กระนั้นเรื่องอะไรจะบอกให้เสียฟอร์มใช่มั้ยค่ะวันนั้นพวกเราสองคนคุยกันอย่างคุ้นเคย เลยจ้า เขาเป็นผู้ที่คุยเก่งมากมายเลย จนถึงหนูไม่เคยรู้สึกอายอีกต่อไป มองเขาเองก็พอใจ หนูไม่ใช่น้อย เขากล่าวว่าหนูเป็นคนน่ารักน่าเอ็นดู ทำเอายินดีเป็นบ้าเลยจ้า แม้กระนั้นตีฟอร์มดีไว้ก่อนไม่แสดงออกมา มิเช่นนั้นจะกล่าวหาหนูเป็นผู้สูงอายุแดดแก่ลม “พอดิบพอดี..ผมจะต้องไปเล่นดนตรีอีกผับหนึ่งนะครับ อย่าลืมโทรมาหาผมครับ ผมจะรอ” ก่อนกลับเขายื่นนามบัตรให้หนู มันมีทั้งยังเบอร์ที่บ้านแล้วก็เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ เบอร์เพจอีกต่างหาก หนูเก็บไว้อย่างดีเยี่ยมในกระเป๋าเสื้อ กะว่าจะต้องโทรไปแน่ๆเลยจ้า วันถัดมาเป็นวันอาทิตย์ หนูรีบกดโทรศัพท์ไปที่โทรศัพท์เคลื่อนที่เขาแต่เช้าตรู่เลยจ้า และดีใจมาก ที่เขาเป็นผู้รับสาย เสียงราวกับคนพึ่งตื่น หนูมีความคิดว่าเขาจะนอนก็แทบตอนเช้าแล้วเพราะว่าเล่นดนตรีตลอดทั้งคืน “น้องเองหรอจ๊ะ ดีใจมากเลยที่โทรมา” เขาปากหวานก่อนเลยจ้า ทำเอาหนูเป็นยินดีเพราะว่าเขาจำเสียงได้ด้วย สรุปว่าพวกเรานัดพบกันที่ห้าง สรรพสินค้าแห่งหนึ่งจ้ะ เขาเชิญหนูไปดูหนังซึ่งกำลังได้รับความนิยมลำดับแรกๆทีเดียว หนูก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและไปตามนัดแนะ พอดิบพอดีไปพบเขารออยู่ก่อนแล้ว ช่วงกลางวันเขาก็แต่งตัวโก้ไม่เย้าหยอก คนมันหล่ออย่างไรก็จะต้องหล่อวันยังค่ำใช่ไหมล่ะค่ะ หนูเดินควงเขาด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะว่าสายตาหลายคู่ขาจ้องมาที่คู่พวกเราไม่หยุด เพียงแค่เดินเข้าไปในโรงภาพยนต์ก็เสียว แล้วจ้ะเพราะว่ามันมืดมาก เขาเอามือมาโอบไหล่หนูไว้ไม่ให้เดินเซ หนูวูบวาบๆไปตลอดตัวเลย เพราะว่าไม่เคยมีผู้ใดกันมาสัมผัส อย่างงี้เลยจ้า แม้กระนั้นก็ไม่ค่อยสะดุ้งมากแค่ไหน เพราะว่าเขาโอบแบบนุ่มนวลอย่างยิ่งจ้ะ หนังวันนั้นมันมีบทเลิฟซีนแทรกมาด้วย หลายตอนเลยจ้า หนูรู้สึกอายๆชอบกล ยิ่งในระหว่างที่ดารานำชายกับนางเอกเล่นบทเสียวบนเตียงกันแล้ว หนูไม่ได้อยากต้องการมองเลยจ้า ร่างเขาทั้งสองเปลื้องผ้า มีเพียงแค่ผ้าบางๆปกปิดเอาไว้เพียงแค่นั้น เสียงซี้ดซ้าดเล็ดลอดออกมา หาเรื่องเอาหนูหน้าแดงซ่านเพราะว่าอาย ในความมืดดำของโรงภาพยนต์อย่างยิ่งจริงๆจ้ะ พี่เขาก็จ้องมอง แม้กระนั้นหนูชำเลืองไปดูหน้าเขาก็มองปกติ อย่างกับว่าเขาเคยมองมาแล้ว จนเกิดความเคยชินนั่นเอง ยิ่งนางเอกร้องซี้ดซ้าดทีไร หนูยิ่งวูบวาบตัวตามไปด้วย บริเวณใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวราวกับฉีดแรงไปด้วยเลือดสาว เขาหันมาดูหน้าหนู “เป็นอะไรไปจ๊ะน้อง มองเห็นกระวนกระวายอยู่นั่นแหละ” เขาถามออกมาแม้กระนั้นก็หัวเราค่อยๆหนูมิได้ตอบอะไรจ้ะ ได้แม้กระนั้นยิ้มนิดๆนั่งมองไปดูมาต่อไปนี้มือเขาก็วุ่นวายแล้วนะสิค่ะ เขาเอื้อมมาวางที่มือหนูแล้วก็จับไว้ เบื้องหน้าตัก หนูรู้สึกมันแว๊บๆขึ้นมาโดยทันทีเลย บอกผิดว่าเพราะเหตุใดถึงเขินอายได้เพียงแค่นั้น ธรรมดาหนูจะเป็นคนออกจะกระโดก กระเดกอยู่แล้วด้วย ไม่เพียงแค่จับมือนะคะ เขาล้วงเลยมาเบื้องหน้าขาหนูด้วย หนูสะดุ้งพูดไม่ถูกแม้กระนั้นก็ทำนิ่ง เพราะว่าไม่เคยรู้จะทำเช่นไร เขาเบาๆลูบคลำเบาๆทำเอาหนูหวิวๆไปด้วยความไม่เคย ข้างในความมืดดำของโรงหนังวันนั้น คนก็ไม่ค่อยแน่นด้วยจ้ะ แม้กระนั้นหนูมีความรู้สึกว่ามันมืดกว่าโรงที่เคยมองมาด้วย มือไม้เขาช่างดื้อแล้วก็ไวเหมือนกับลิง ไม่เพียงแค่มือแล้วก็หน้าขาเพียงแค่นั้น ต่อไปนี้หนูเกร็งหมดตัวเลยจ้า มันวาบหวิวอยู่ตรงเนินอกสองข้างที่ออกจะเล็กแม้กระนั้นยกชัน ก็มือเขานะสิค่ะ มาลูบไล้อยู่ที่ตรงนั้น แล้วก็วนไปๆมาๆด้วย หนูมองหน้าเขาเพราะว่าสะดุ้ง เขาเอามือมาประสานมือหนูไว้ข้างหนึ่ง แล้วก็กำมันไว้เบาๆบางเวลาก็บีบไปๆมาๆด้วย หนูบอกตนเองผิดไม่รู้เรื่องเช่นกัน ปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาปฏิโลม ยิ่งมันถูๆไถๆรอบๆสองติ่งตรงหน้าอกแล้ว มันสะท้านวูบวาบๆไม่ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย กลายเป็นความบันเทิงที่คละเคล้าไปด้วย ความสบายสมใจอยากในความมืดดำ ตาหนูเพ่งดูภาพในหน้าจอใหญ่ของโรงหนัง แม้กระนั้นจิตใจนะสิค่ะมันคิดเกินเลยไปไหนก็ไม่เคยรู้ ก็นักเล่นดนตรีมือสวาทแถมเร็วอีกต่างหาก ล้วงเลยมาตรงเป้ากางเกงยีนส์หนูสิค่ะ โชคดีที่มันออกจะฟิตก็เลยไม่ค่อยรู้สึกมากแค่ไหน ต่อไปนี้หนูเกร็งตัวสะดุ้งเต็มที่เลยจ้า ซิบกางเกงยีนส์มันถูกรูดลงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่เคยรู้ แถมนิ้วของเขายังเขี่ยๆตามร่องกลีบ ที่มันไม่เคยถูกผู้ใดกันสัมผัสมาก่อนเลยจ้า หนูนั่งตัวแข็งทื่อ หายใจรวยริน ทั้งยังอายทั้งยังเสียว เพลิดเพลินอย่างยิ่ง ยิ่งนิ้วสวาทเขาทิ่มแทงอยู่ตรงเม็ดทับทิมสีแดงอ่อนที่หนูเคยแหวกมองในกระจก เงาแล้วล่ะก็ ยิ่งสร้างหงุดหงิดวแบบใหม่ๆให้เป็นสองเท่าเลยจ้า หนูกลับบั้นท้ายน้อยเพราะว่าเสียวมากมาย “ไม่ต้องกลัวพี่นะน้อง เกิดเรื่องธรรมชาติของมนุษย์พวกเรา น้องรู้สึกหรือไม่ ถ้าเกิดน้องทดลองต้องถูกใจแน่เลย พี่มิได้ทำไปเพราะว่าความต้องการนะ แม้กระนั้นเพราะว่ารักน้องแล้วก็ถูกโฉลกตั้งแต่ต้น มองเห็นแล้ว พี่ไม่อยากที่จะให้น้องเป็นของผู้ใดกันเลย” เขาพูดจาคะยั้นคะยอจนถึงหนูใจอ่อน ยินยอมให้เขาละเลงเม็ดทับทิมเล่นอย่างเบิกบานมือ แม้กระนั้นก็ทำให้หนูเสียวสุดขีดหัวใจดีล้นเกินจ้ะ จนถึงหนูเบาๆถ่างขาออกกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รู้รสเสียวสวาทจากมือเขาไม่หยุด อารมณ์ลอยล่องเตลิดเปิดเปิงไปไกล มิได้พอใจหนังข้างหน้าอีกต่อไปแล้วหนูเสียววูบวาบเพลิดเพลินจนถึงหนังจบแล้ว รู้สึกมันเฉอะแฉะๆอย่างไรชอบกล หนูไม่เคยรู้ว่ามันเป็นน้ำอะไรกันแน่ ถึงได้ล้นออกมา อย่างงั้น ถึงแม้ว่าไม่เคยมีมาก่อนเลยจ้า “พวกเราไปพบอะไรกินกันดีมากกว่านะน้อง” เขาพยุงร่างหนูออกมาจากโรงหนัง มันเป็นความรู้สึกที่แสนอบอุ่นเสียอย่างยิ่งจ้ะ เพราะว่าหนูไม่เคยได้จากผู้ใดกันเลย แม้กระทั้งบิดาของตน พอเพียงพวกเรารับประทานอิ่มแล้วหลังจากนั้นก็ไป ที่ที่จอดรถชั้นที่อยู่ใต้ดิน เขากล่าวว่าจะพาหนูไปส่งถึงหน้าบ้านเลย แม้กระนั้นยังไม่ทันสตาร์ทรถยนต์ เขาก็เอนร่างมาเบื้องหน้าหนูจ้ะ แล้วเอาลิ้นมาเกาะติดลิ้นหนู แถมยังดูดดุนไปๆมาๆด้วย หนูรู้สึกสะท้านไปทั่วกาย เพราะว่ารสลิ้นเขาช่างเพลิดเพลินอารมณ์อย่างยิ่งจ้ะ โชคดีที่ที่จอดรถขณะนั้นไม่มีผู้ใดด้วย แล้วก็รถยนต์เขาก็หยุดอยู่ซะมุมลึกเสียด้วย ก็เลยปราศจากสายตาคน เขาจูบระดมไปทั่ว บริเวณใบหน้าหนู แถมยังชอนไชไปตามซอกคอ ยิ่งเพิ่มรสเสียวใฝ่ถึงป่วนใจจิตใจอย่างยิ่งเลยจ้า หนูเผลอร้องโอยๆออกมาเพราะว่ามันวูบวาบไปทั่วทรวง แถมตรงเนินสามเหลี่ยมโน่นก็เฉอะแฉะไม่มีหยุดเลย เสื้อคลุมเสื้อในก็ถูกรั้งมาอยู่ตรงก้านคอ เขาบดขยี้ตรงติ่งสองเต้าอย่างมันมืออย่างยิ่งจ้ะ หนูถูกใจมากมายแอ่นสู้มือเขาด้วยอารมณ์เพลิดเพลินเจริญใจ ตัวสั่นระริกไปด้วย รสเสียวที่สวาทหนแรกในชีวิต มันเมื่อยล้าตูดมากมายเพราะว่าจะต้องน้อมตัวไปทางเขาด้วย แม้กระนั้นก็ไม่เป็นปัญหา เพราะว่ารสเสียว มันมันกว่าตั้งหลายเท่าจ้ะ ติ่งสวาทสองเต้าที่มันเป็นสีแดงอ่อนยกชันโด่ ไม่วายถูกเขาอมเข้าไปในปาก ต่อไปนี้ก็ออกแรงดูด ดุนมันจนถึงหนูเสียวสั่นเครือครวญฮือฮาใหญ่เลยจ้า เม็ดเหงื่อผุดเต็มใบหน้า มันร้อนอบอ้าวไปทั่วเมื่อถูกเขารัวจู่โจม เม็ดทับทิมอย่างมาก ก็ยิ่งร้อนวูบวาบไปทั่วเลยจ้า ทั้งยังกระวนกระวายใจเล่นเอาหนูตุ้งติ้งไปๆมาๆอย่างไม่ได้ตั้งใจเลย “โอว..พี่..พี่.. มันเสียวจังเลย อูย..ซี้ด..” เขาพยุงร่างหนูให้เอนลงไปนอนตรงเบาะหลัง หนูนอนลงไปอย่างว่าง่ายไม่ต่อสู้แม้แต่น้อย มันเพลิดเพลินเจริญใจอย่างยิ่ง อารมณ์ลอยล่องไปไกลวูบวาบๆไปทั่วทรวงสาว แล้วเขาก็เข้ามาเบาะหลังบ้าง ต่อไปนี้เขาจับเอาเจ้าลูกระเบิดที่หนูพึ่งเคยได้เห็นหนแรกในชีวิต หนูถมึงทึงตาวาววาว มันตรงร่องอย่างอัตโนมัติเลยจ้า แล้วก็ยังไม่ทันตรวจจนถึงทั่วก็โดนมันถึงทิ่มเข้ามาตรงร่องเฉอะแฉะเสียแล้วจ้ะ มันเจ็บสุดชีวิต หนูดิ้นเร่าด้วยความแสบสัน เขาไม่ละความบากบั่น กดทิ่มลงมาไม่เว้นแล้วก็ออกแรงขย่มเข้ามาไม่ยั้ง หนูร้องลั่น ทั้งยังเจ็บทั้งยังเสียวสั่นเครือระงมทั่วรถยนต์เลย เขากระดอนเอวใส่ ความเร็วแรงของเจ้าลูกระเบิดเข้ามาไม่ยั้ง จนถึงร่างหนูยวบยาบๆไปด้วย ทั้งยังร้อนทั้งยังเสียวทั้งยังเจ็บจนถึงหนู เกือบจะใจขาด แล้วไม่กี่วินาทีถัดมาเขาก็หลั่งน้ำที่ความสบายจนถึงเยอะไปหมดเลยจ้า หนูนอนหายใจรวยรินด้วยความเจ็บปวด ในหนแรกที่พึ่งได้ทราบจักรส พูดตรงไปตรงมาว่าหนแรกที่ที่จอดรถขณะนั้น หนูเลือดท่วมไปหมดเลย ซึ่งเขากล่าวว่าดีใจมาก ที่มองเห็นเลือดหนู แล้วครั้งถัดไปมันก็มิได้ทำให้หนูเจ็บอีกอะไรเลยจ้า ตรงกันข้าม กลายเป็นความเสียวสั่นเครือแทน เพราะว่าถูกเขาเล่นอยู่เสมอๆจนถึงหนูเคยชินเสียแล้วด้วย และคิดได้ว่ามันเกิดเรื่องธรรมชาติของคนพวกเราจริงๆจากที่พี่เขาบอกไว้ ในเวลานี้หนูตามติดพี่เขาแจเลยจ้า ถ้าเกิดมีเวลาว่างจะต้องไปนั่งเฝ้าหน้าเวทีไม่ขาด ก็เนื่องจากกลัวผู้หญิงคนอื่นๆจะมาเชิญพี่เขาไปเล่น เรื่องธรรมชาตินะสิค่ะ หวงจริงๆจ้ะ
