ไม่..เอา..ไม่เอานะ..ถอดเลย ถอดซะดีๆ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นราวๆตอนใกล้ปลายปี ตรงเวลาที่ผมมีความรู้สึกที่ดีเยี่ยมๆแล้วก็ยังฉงนใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมชื่อแก่ ผมปฏิบัติงานเป็นเซลล์ขายวัสดุอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ แล้วก็เป็นอาสาสมัครปรับปรุงงานสังคมของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ผมได้ทราบจะกับน้องคนหนึ่ง คุณชื่อเฟิร์น คุณเป็นลูกครึ่งไทยจีน บ้านจริงๆอยู่ที่บ้านนอก แม้กระนั้นเข้ามาเรียนแล้วก็ปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานคร เฟิร์นก็เป็นอาสาสมัครปรับปรุงงานสังคมอย่างกับผม ก็เลยส่งผลให้พวกเราได้ทราบจะกันอย่างดีเยี่ยม ในฐานะญาติพี่น้องพ้องสหายสถานที่สำหรับทำงานด้วยกัน พวกเรารู้จักกันมาราวๆ 4 ปี ตั้งแต่เฟิร์นยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง จนถึงเฟิร์นจบแล้ว คุณก็พึ่งจะเริ่มปฏิบัติงานได้ไม่นาน เดี๋ยวนี้เฟิร์นก็อายุ 23 ปี ส่วนผม 26 ปี เฟิร์นยังไม่มีแฟน เพราะเหตุว่าคุณถูกใจมีความคิดว่าตนเองไม่สวย ก็เลยไม่กล้าตอบรับคนใดกันแน่ แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วผมว่าเฟิร์นก็เป็นคนสวยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยที่มองตรงไปตรงมาบริสุทธิ์ คิกขุ สนิทสนมกับทุกคน ถูกใจช่วยเหลือคนอื่นๆ ใบหน้าเฟิร์นถึงจะไม่สวยเลิศ แม้กระนั้นก็จัดว่าใช้ได้ เหมาะสมกับผิวขาวๆรูปร่างอ้วนนิดๆพอดี คล้ายสาวประเทศญี่ปุ่น วันนั้นเป็นวันศุกร์ซึ่งต่างคนต่างก็เลิกงานมา พวกเราก็เข้าไปช่วยงานสมัครใจตามธรรมดา แม้กระนั้นวันนั้นมีการคิดแผนงานสำหรับโครงงานปีถัดไป กว่าจะได้กลับไปอยู่บ้านก็ราวๆ 3 ทุ่มครึ่ง ผมต้องให้เอกสารชิ้นหนึ่งกับเฟิร์น ซึ่งมันอยู่ที่บ้านผม เหมาะเจาะกับทางกลับไปอยู่บ้านของเฟิร์นนั้น เลยบ้านผมไปอีกไกล ผมก็เลยสมัครใจไปส่งเฟิร์นที่บ้าน โดยจะแวะเอาเอกสารให้คุณด้วย แล้วผมก็บึ่งจักรยานยนต์คันเก่งพาคุณกลับ โดยแวะไปเอาเอกสารที่บ้านผมก่อน บ้านผมเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น และไม่ลิฟท์ซะด้วย กว่าจะขึ้นไปถึงห้อง เฟิร์นก็พร่ำบ่นอุบว่าปวดเมื่อยขา เพราะเหตุว่าคุณมิได้อยู่อพาร์ทเม้นท์ราวกับผม ห้องผมเล็กมากมาย มีของอยู่ไม่มากมาย เข้าไปก็มองเห็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ตรงปลายเตียง มีตู้เก็บเสื้อผ้าสิ่งของใกล้กับส้วม เมื่อเฟิร์นเดินเข้าไปในห้องผม คุณก็พุ่งไปนอนเหยียดแขนเหยียดขาบนเตียงผมด้วยความอ่อนล้า ส่วนผมก็รีบเข้าไปเอาเอกสารในตู้ หายังยังไงก็ยังไม่พบ ไม่ทราบเอาไปเก็บไว้ไหน เมื่อเฟิร์นหายจากการอ่อนแรงซักพัก เฟิร์นก็ถามผมว่า “ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพี่มีเกมหรือปล่าว” ผมก็มึนงงๆแล้วถามกลับไปว่า “ถูกใจเล่นเกมคอมพิวเตอร์ด้วยหรอ” เฟิร์นก็ทำสีหน้าท่าทางท้าแล้วพูดว่า “เฟิร์นนี้แหละ นักเล่นเกมตัวยงเลยล่ะ” ผมก็บอกคุณว่า “ก็เปิดมองสิ” ยังไม่ทันสิ้นเสียง เฟิร์นรีบปรี่เข้าพบคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดเครื่องอย่างแคล่วคล่อง อย่างกับเป็นเครื่องที่บ้านของคุณเอง “โอ้โห! เกมมากมายเลย” เสียงคุณผ่องใสราวกับเด็กได้ของเล่นเด็ก ระหว่างนั้นผมก็กำลังจดจ่ออยู่กับการหาเอกสาร “พี่แก่มาเล่นเกมร่วมกันดีมากกว่า ประเดี๋ยวค่อยหาก็ได้ เล่นผู้เดียวไม่สนุกเลย” เสียงคุณตัดพ้อต่อว่าระหว่างที่คุณกำลังเล่นเกมส์ตีปิงปองอยู่กับคอมพิวเตอร์ ผมก็เลยกล่าวเชิงท้าคุณว่า “อย่าเล่นกับพี่เลย ประเดี๋ยวแพ้พี่ก็ยิ่งน่าระอากันไปใหญ่” เฟิร์นหันกลับมาด้วยใบหน้าเป็นจริงเป็นจังครึ่งโกรธ “ไม่มีวัน! เฟิร์นเล่นเก่งกว่าพี่แน่ๆ ไม่เชื่อพนันกันก็ได้” ประโยคนี้เป็นจุดผกผันอย่างยิ่งจริงๆ ไม่ทราบอะไรมากมายระตุ้นต่อมประสาทผมให้ตอบกลับไปฉับพลันว่า “พวกเรามาพนันถอดเสื้อถอดผ้าครั้งละชิ้นกันเลยดีกว่า คนใดกันแน่เปลือยหมดตูดก่อนแพ้” เฟิร์นผงะหงายด้วยความตื่นตระหนกแล้วอุทานเสียงดัง “บ้า! พนันอะไรอย่างงั้น คนใดกันแน่จะให้มองกล้วยๆ” ก็ไม่ทราบอะไรสิงผม “อันที่จริงแล้วกลัวแพ้ล่ะสิ แล้วพูดว่าแน่” ผมตอบกลับฉับพลันอีก โอ้เป็นได้! “ก็ได้! เก่งมาทดลองดูกันไปเลยว่าคนใดกันแน่เก่งกว่า” เลือดนักสู้ของเฟิร์นทำให้ผมหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบล้นเข้าไปนั่งข้างคุณ รับคำท้าทายแล้วชี้แจงข้อตกลงอย่างพร้อมสรรพ “คนใดกันแน่แพ้หนึ่งลูก จำเป็นต้องถอดเสื้อถอดผ้าที่อยู่ในตัวหนึ่งชิ้น ชิ้นไหนก็ได้ คนใดกันแน่หมดตูดก่อนแพ้ แล้วจำเป็นต้องเลี้ยงข้าว 1 มื้อด้วย” “ได้เลย! พี่จะได้เปลือยซึ่งๆหน้าเพศหญิงก็ตอนนี้ล่ะ” เฟิร์นกล่าวอย่างท้า ในใจผมเร่าร้อนใจบอกกับตนเองว่าจำเป็นต้องชนะ! จำเป็นต้องชนะ! จากที่ผมไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเฟิร์นมากยิ่งกว่าความเป็นมิตร แม้กระนั้นขณะนี้จินตนาการมันลอยละล่องไปถึงไหนต่อไหน แล้วพวกเราก็เริ่มเล่นเกมแรกด้วยความจริงจังอีกทั้ง 2 ข้าง เกมแรกเฟิร์นได้ออกเสียงหัวเราะดังสนั่นหวั่นไหว “พี่แพ้แล้ว ถอดเลย ถอดซะดีๆ” ผมจ๋อย แม้กระนั้นในใจกลับมีความคิดว่า ดีแบบเดียวกันได้อวดของดีผู้หญิงก็ตอนนี้ล่ะ “พี่ถอดกางเกงก่อนแล้วกัน เพราะเหตุว่าขั้นต่ำ ยังมีเสื้อมาหุ้มกันโป้” น้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า แม้กระนั้นในใจต้องการถอดเหลือทน “เช้อ! คนใดกันแน่จะไปต้องการมองล่ะ” คุณตอบแบบเขินๆผมรีบถอดกางยีนส์ตัวเก่งออกอย่างเร็ว สีหน้าท่าทางของคุณแสดงความเขินออกมาอย่างชัดเจน เมื่อผมถอดกางเกงออกเหลือแค่เสื้อยืดที่พูดว่าจะกันโป้ได้ แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วก็ไม่กันอะไรเลย เปิดเผยให้เฟิร์นมองเห็นเจ้าน้องชายของผม อัดแน่นอยู่ในกางเกงชั้นในสีขาวซึ่งดูอย่างกับว่ามันใกล้จะปริออกมา คุณเก้ๆกังๆทำหน้าเอ๋อๆ“เล่นต่อดีมากกว่า” เฟิร์นพูดเสียงเครือๆ“เห้! พี่แพ้อีกแล้ว” เกมที่ 2 ผมแพ้อีก แม้กระนั้นผมกลับพอใจอยู่ในใจ ตอนนี้ล่ะตัดเชือก เฟิร์นหันมามองดูผมอายๆไม่กล่าวอะไรซักคำ “พี่ถอดกางเกงที่เหลือนะ อย่างไรก็ยังมีเสื้อปิด” (เป็นข้อแก้ตัวเดิมที่ไม่เอาถ่าน เพราะเหตุว่าก็รู้อยู่ว่าห้ามเจ้าน้องชายไว้มิได้แน่) สีหน้าท่าทางเฟิร์นยิ่งตกใจ เมื่อได้มองเห็นเจ้าน้องชายผมเป็นแท่งอ้วนใหญ่ยกชันเกินกำลัง “หว๋า..” เฟิร์นถึงกับร้องออกมาเบาๆอย่างไม่ตั้งใจ คุณเอียงหน้าหนีกลับเหลียวตามองดูเป็นระยะ ผมทายใจว่าในใจคุณคงจะเร่าร้อนใจไปหมด ไม่ทราบเรื่องราวถัดไปจะคืออะไร “เรือโป๊ะจ้ายเช๊ะ! ตาพี่บ้างล่ะ! ถอดเลย ถอดเลย” เกมที่3 เป็นคราวของผมจนได้ “พี่ ยอมตานึงนะ น้า..” คุณร่ำร้องไม่เป็นคำ “มิได้ๆข้อตกลงควรจะเป็นข้อตกลง” “ก็ได้ๆ” คุณทำเสียงเครือๆผมเชื่อว่าสายตาตนเอง เฟิร์นเลือกจะถอดกางเกงของคุณก่อน โดยใช้ข้อแก้ตัวเดียวกับผม คุณเบาๆบรรจงถอดกางเกงที่มีสีดำสนิทของคุณ เปิดเผยให้มองเห็นผิวขาขาวอ้วนพอดี สีตัดกันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อกางเกงดำสนิทของคุณร่วงลงถึงพื้น สายตาผมก็จ้องไปที่กางเกงลิงสีครีม มีลูกไม้ระบายบางเบาจนถึงสามารถมองเห็นเส้นใยดำขำอยู่ด้านใน เจ้าน้องชายแท่งอ้วนของผมก็เหงื่อออก กระดกขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ เฟิร์นยิ้มขวยเขินรีบนั่งไขว่ห้าง บังจุดหมายของผมอย่างเร็ว ทำเอาหัวใจผมระทึกสะท้านไปหมด สายตายังไม่ลดละจากเรียวขาอ้วนงาม แล้วก็บั้นเอวที่รับกับองค์เอวที่ดูแล้วใช้ได้อย่างยิ่งจริงๆ “เฟิร์นนี่ก็เป็นคนหุ่นดีใช้ได้เลยจ๊ะ” ผมออกปากดูรูปร่างอ้วนสวย ซึ่งผมไม่เคยดูรูปร่างของคุณเลย เฟิร์นยังเขินไม่เลิก ได้แม้กระนั้นเหนียมอายไม่กล่าวอะไรซักคำ เกมที่4 “ฮ้าๆๆชนะอีกแล้ว” ผมตะเบ็งลั่นด้วยความปลาบปลื้ม เฟิร์นอุทานไม่เป็นคำ คุณเขินบิดตัวหนีไปๆมาๆด้วยความเขินอาย ทันทีทันใดเจ้ามือจอมซุกซนของผมก็พุ่งไปที่กระดุมเสื้อเม็ดแรกของคุณ “ถอดเลย! ถอดเลย! ห้ามคดโกงนะ” พลางแกะกระดุมเสื้อเม็ดแรกออกในทันที “ประเดี๋ยวๆเฟิร์นถอดเอง” คุณปัดมือผมออกด้วยความขี้อาย “เฟิร์นถอดด้านในออกก่อนก็ได้ อย่างไรก็ยังมีเสื้อปิดอยู่” คุณวิ่งไปมุมห้องหันหลังให้ผม ดึงเสื้อในสีครีมออกมาวางไว้ที่ปลายเตียงตรงที่คุณนั่ง สรวงสวรรค์โปรด! เจ้ากระดุมเม็ดที่ผมแกะไว้ยังเปิดอ้าอยู่ เปิดเผยให้มองเห็นเนินอกอิ่มงามของเฟิร์น “ผมมีของดีอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้แม้กระนั้นไม่เคยได้ตั้งใจ” ผมคิดพลางมองดูเนินอกอิ่มอย่างตั้งใจ “รอมองนะ ตอนนี้สิ้นสุดกัน พี่แพ้แน่ๆ” เฟิร์นกล่าวออกมาเป็นประโยคแรก ภายหลังที่เขินอยู่นาน “พี่เหลือชิ้นท้ายที่สุดแล้ว อย่างไรก็แพ้เฟิร์นแน่นอน” ราวกับคุณจะกล่าวปลอบประโลมใจตนเอง เกมที่5 ผมมองดูไปที่เนินอกของคุณอย่างหิวหิว เท่ากับเจ้าน้องชายแท่งอ้วนที่ผงาดชูหัวอย่างไม่เกรงใจเฟิร์น “ถนน.อำเภอ.ด..เ..ลิตร.ย..” ผมเริ่มเป็นข้างกล่าวไม่เป็นคำ “ไม่..เอา.. ไม่เอานะ..น้า….” คุณบอกปัด เบี่ยงตัวหนี เสียงเครือๆทำอะไรผิด ผมเข้ารุกล้ำในทันที มือสองข้างพุ่งเป้าเข้าไปที่กระดุมเสื้อเม็ดถัดไป แล้วแกะกระดุมครั้งละเม็ดอย่างเร็ว จนถึงเฟิร์นไม่มีจังหวะตั้งตัว คุณได้แม้กระนั้นโวยวายไม่เป็นคำ คุณแอ่นตัวหนีผม แม้กระนั้นไม่บางทีอาจหนีไปไหนได้ จุกนมเม็ดสีชมพูราวกับพลอยเม็ดสวย ที่ตั้งอยู่บนเนินอกอิ่มงามขนาดใหญ่ถึงที่เหมาะ ยกชันท้าผมอยู่ใกล้ตาเพียงคืบ “โอ้โห๋! พี่ไม่เคยมองเห็นคนใดกันแน่อกงามขนาดนี้เลย” ผมเสียงสั่นเครือรัวไม่เป็นจังหวะ “พี่อย่ามองดู..อย่ามองดู… เฟิร์นอาย..” คุณก็กล่าวรัวไม่เป็นคำ เบี่ยงตัวหลบไปๆมาๆแม้กระนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเหตุว่าเจ้า 2 มือของผมก็จับแขน 2 ข้างของคุณไว้แน่น ตาก็จ้องอย่างไม่ลดละ เมื่อเฟิร์นเริ่มข่มอารมณ์ได้ คุณก็ผละออกจากมือผม “เล่นให้จบเลย เกมท้ายที่สุดแล้ว” น้ำเสียงคุณมองลังเล ราวกับปราศจากความมั่นอกมั่นใจ ผมยิ่งเกิดกำลังใจเยอะขึ้นรีบหันกลับไปเล่นเกมต่อ เกมที่ 6 “แงๆ..แงๆ.. ไม่เอานะ..ไม่ยินยอมด้วย..” เฟิร์นพูดเสียงสั่นระรัวไม่เป็นคำทำอะไรผิด เมื่อรู้ดีว่าคุณเป็นผู้แพ้ ผมหันตัวเข้าไปหาคุณใกล้ๆแววตาแวววาวแสดงสิ่งที่จำเป็นอย่างเห็นได้ชัด “ให้พี่มองหน่อยนะ.. น่า..นะ..เล็กน้อยเอง…” ผมอ้อนวอนอย่างเป็นจริงเป็นจัง ณ ตอนนั้นมือไม้ผมเริ่มรุกล้ำเข้าไปในกายคุณ มืออีกทั้ง 2 ข้างของผมบีบจับหน้าขาอีกทั้ง 2 ข้างของคุณไว้แน่นอย่างไม่ตั้งใจ เฟิร์นเอียงตัวเบี่ยงหลบไปๆมาๆ อากรับกริยาส่งให้เจ้าน้องชายแท่งอ้วนของผม กระดกขึ้นลงอยู่ซึ่งๆหน้าคุณอย่างไม่เป็นจังหวะ เดี๋ยวนี้มืออีกทั้ง 2 ข้างของผม พากเพียรฉุดดึงกางเกงลิงตัวน้อยของเฟิร์นออก “อ๊า..อย่าจ้ะ..อย่าถอดเลย…” คุณอุทานตัวอ่อนอ่อนนุ่มทำอะไรผิด คุณนอนหงายหลับตาพริ้มหมดเรี่ยวแรง ปลดปล่อยให้ผมถอดเจ้ากางเกงชั้นในตัวน้อยออกมาอย่างราบรื่น กลีบสีชมพูสด ปริ่มเปรมน้ำเยิ้มถึงที่เหมาะ ชื่นบานออกราวกับจะเชิญชวนให้ผมได้ลิ้มชิมรสเกสร เฟิร์นยังดูอย่างกับว่าเป็นอัมพาตคุณ นอนนิ่งบิดตัวไปๆมาๆนิดหน่อย ผมทนทานถัดไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมโถมตัวเข้าพบคุณอย่างเร็ว นิ้วมือขวาของผมเจาะลึก ตรวจร่องกลีบเยิ้มของเฟิร์นอย่างเพ้อคลั่ง ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ลำตัวคุณไปทั่วๆริมฝีปากผมก็หลงใหลจุกนมสีชมพูงามของเฟิร์นอย่างอร่อยมาก พลางเลื่อนมือมาบีบกดอกอ้วนของคุณอย่างบ้า ” โอ้ว! ซี..ด….อ้า..” เฟิร์นร้องครวญครวญในคอ บิดลำตัวไปๆมาๆตอบรับปฏิกริยาของผมเหมือนกัน มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น เลือดลมสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ เมื่อดูดจุกนมชมพูจนถึงสดชื่น ผมก็เลื่อนหน้าลงมาลิ้มชิมรสกลีบเยิ้มของเฟิร์น พลางเอื้อมมือไม้บีบคาดคั้นอกอ้วนอย่างบ้า ลิ้นของผมแยงตรวจเกสรกลีบเยิ้มสีชมพูสดอย่างถ่องแท้ “อ้า…พี่แก่ขา..อย่าจ้ะ..โอ้ว..” เฟิร์นบิดตัวไปๆมาๆแรงขึ้น ดูอย่างกับว่าไม่ยอมรับ แม้กระนั้นปฏิกริยากลับตอบรับ คุณแอ่นกลีบเยิ้มเข้าพบริมฝีปากผม เพื่อเจ้าลิ้นจอมซุกซนของผมเข้าไปให้ลึกที่สุด ผมรัวลิ้นจนถึงปวดเมื่อยไปหมด เฟิร์นก็ครวญระงม แกว่งตัวไปๆมาๆตอบรับอย่างบ้า เมื่อลิ้มชิมรสกลีบเยิ้มจนถึงพึงพอใจ ก็ตรงเวลาของเจ้าน้องชายผมจำเป็นต้องทำความรู้จักกับเฟิร์นซักครั้ง ผมชูขาของเฟิร์นขึ้นสูง เปิดเผยให้กลีบแย้มบานออก ผมใส่ตัวเข้าใต้ขาคุณ และจับเจ้าน้องชายแท่งอ้วนยัดสอดใส่เข้าไปในกลีบดอกไม้อย่างปราณีต “โอ้ว! อ๊า…!” เฟิร์นครวญเสียงดังตอบรับ เจ้าน้องชายผมอัดแน่นอยู่ในกลีบดอกไม้เยิ้มของเฟิร์น ผมเริ่มเบาๆขยับเจ้าน้องชายเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้าๆ“อู้ส..” “อ้า…” “ซีดเซียว..” เป็นเสียงครางของเฟิร์นทุกจังหวะ ที่เจ้าน้องชายผมมันดันตัวเข้าไปจนถึงสุดในกลีบเยิ้มของคุณ ผมยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าออกอย่างบ้า สีหน้าท่าทางของเฟิร์นที่ดูอย่างกับว่าปวดในตอนแรกแปรไป เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มพริ้มอย่างสุขสบาย แล้วก็พลางครวญไม่เป็นคำตามจังหวะ เมื่อถึงที่เหมาะ ผมดึงเจ้าน้องชายออก พลางจับบั้นเอวกลมกลึงของเฟิร์นกลับตั้ง หน้าคุณซบคงที่นอน สองมือบีบกำที่พักผ่อนไว้แน่น ผมก็ใส่ยัดเจ้าน้องชายของผมเข้าไปอีกรอบ ตอนนี้ซอกซอยถี่ขึ้นอีกด้วยความมัน เฟิร์นก็ดันตูดกลมกลึงชนกลับในทุกจังหวะ แล้วก็ร้องครวญอย่างสุขสบาย จนกระทั่งวินาทีที่คุณร้องครวญอย่างสุดเสียงราวกับได้ขึ้นสรวงสวรรค์ “โอ้ว..!! อ้า..พี่ขา..โอ๋ว…” หัวเข่าเฟิร์นทรุดลงไปกองบนที่พักผ่อนราวกับคนหมดเรี่ยวแรง เจ้าน้องชายผมก็ถูกเบ่งออกมาดิ้นพิงๆถึงแม้ว่ายังไม่ต้องการที่จะอยากคัดออก ผมรีบยืนขึ้นเปลี่ยนที่โดยเข้าไปนั่งอ้าซ่า อวดเจ้าน้องชายซึ่งๆหน้าคุณใกล้เพียงแต่คืบ “ช่วยพี่หน่อยสิจ๊ะ” ผมยื่นเจ้าน้องชายเข้าไปใกล้ริมฝีปากเฟิร์น สัญชาติญาณการศึกษาของเฟิร์นเร็วมากมาย คุณจับเจ้าน้องชายแท่งอ้วนของผมใ
